วันพุธที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2552

คู่หูกูเกิ้ล (จบ)

คู่หู google (2)

โดย ปรารถนา รัตนะสิทธิ์ ผู้เขียน ริชาร์ด แบรนสัน พ่อมดแห่งโลกธุรกิจ และ Obam@rketing


แล้วในที่สุด ต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมานี้ เสือปืนไวอย่าง กูเกิ้ล ก็เข้าซื้อกิจการ เว็บแห่งอนาคตที่เปิดโอกาสให้โพสวีดีโอ อย่าง ยูทูบ (YouTube.com) แล้ว ด้วยเม็ดเงิน 1.6 พันล้านดอลล่าร์ หลังเคยมีข่าวออกมาว่า เป็นเว็บที่คนเข้าใช้ระดับ 70 กว่าล้านคน แต่ยังขาดช่องทางในการแสวงหารายได้ จึงทำให้ กูเกิ้ลใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีก จนนิตยสารวิเคราะห์ข่าวธุรกิจเมืองนอก กล่าวขวัญกันเป็นการใหญ่ กับการรวมตัวของ 2 ยักษ์ใหญ่ และที่สำคัญคือ ความเป็นนวัตกรรมสังคม และเป็นช่องทางให้โลกออนไลน์มีเสรีภาพยิ่งขึ้นไปอีก โดย บริน ให้สัมภาษณ์ว่า ยูทูบ ทำให้เขาคิดถึงวันแรกๆ ของกูเกิ้ล ที่เด็กหนุ่มเอาไอเดียมาสานฝันให้เป็นจริง จนเกิดเป็นประดิษฐกรรมให้กับโลก แล้วมอบสถานภาพเศรษฐีให้กับตัวเอง ย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้น ณ รั้วสแตนฟอร์ด หลังจาก เพจ และ บรินได้เจอกัน ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนคู่คิด จนเมื่อมหาวิทยาลัยเปิดเทอม เพจ เข้ามารายงานตัว และเลือก Prof. Terry Winograd ผู้เชี่ยวชาญด้านการโต้ตอบระหว่างคอมพิวเตอร์และมนุษย์ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา และเริ่มมองหาหัวข้อวิทยานิพนธ์ เพจ ใช้เวลาอยู่นานในการเลือกหัวข้อ จนสรุปว่า เขาเลือกศึกษาเรื่อง World Wide Web และแม้จะเป็นหัวข้อวิจัยเกี่ยวกับเว็บ แต่เขาไม่ได้สนใจที่วิธีการค้นหาข้อมูลบนเว็บ แต่มองจากมุมมองด้านคณิตศาสตร์มากกว่า
เพจ มองว่า 1 เว็บไซท์ หรือ 1 คอมพิวเตอร์ เป็นเพียง จุดๆ หนึ่งบนกราฟ และ ลิงค์ เชื่อมไปยังเว็บไซท์อื่นๆ เป็นทางเชื่อมต่อกัน หรือพูดง่ายๆ ว่า เพจ มองเห็น อินเตอร์เน็ตเป็นกราฟที่ใหญ่ที่สุดที่มนุษย์เราเคยสร้างขึ้นนั่นเอง! แล้ว เพจ ยังสนใจในจุดที่ว่า แล้วใครลิ้งค์ไปหาใครบ้าง จึงเลือกเอาปัญหาในเรื่องนี้ มาเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก และตั้งชื่อเล่นให้กับโปรเจ็คว่า "BackRub Project" จาก BackRub Project ที่ค่อยๆ เติบโตมา ด้วยน้ำมือของนักศึกษา 2 คน ที่ใช้ห้องนอนที่หอพักนักศึกษา ทำเป็นห้อง Server และ ห้องเขียนโปรแกรม จนกลายเป็น Google Project จนเมื่อ เพจ และ บริน มั่นใจในประสิทธิภาพของระบบการค้นหาของตน จึงจดทะเบียน โดเมนเนม Google ในวันที่ 15 กันยายน 1997 และ ตั้งบริษัทชื่อ กูเกิ้ล ในปี 1998 ก่อนเข้าตลาดหุ้นในปี 2004 ส่วนชื่อ Google นั้น มาจากคำว่า "googol" หมายถึง จำนวนทางคณิตศาสตร์ที่หมายถึงเลข 1 แล้วตามด้วยเลข 0 อีกหนึ่งร้อยตัว หรือ 10100 เพื่อแสดงถึงเป้าหมายของบริษัทที่จะจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล กูเกิ้ลเก็บข้อมูลเว็บโดยการส่งโปรแกรมเก็บข้อมูลเว็บไซต์ เรียกว่า สไปเดอร์ (spider หรืออีกชื่อคือ web crawler) ซึ่งเป็นโรบอต (robot) ชนิดหนึ่ง สไปเดอร์จะวิ่งไปตามลิงก์ต่าง ๆ จากเว็บไซต์หนึ่งไปสู่อีกเว็บไซต์หนึ่ง แล้วจะประมวลผล เพื่อจัดลำดับในการแสดงผล โดยใช้ระบบเฉพาะของทางกูเกิ้ล โดยระบบจัดอันดับเว็บเพจแต่ละหน้าของกูเกิ้ล เรียกว่า เพจแรงค์ (PageRank) กูเกิ้ลกลายเป็นเสิร์ช เอ็นจิ้นที่มีการใช้งานมากที่สุดในโลก และยังมีอีกกว่า 10 แห่งนำข้อมูลไปใช้ ทำให้มีส่วนแบ่งการตลาดถึง 42 เปอร์เซ็นต์ ปัจจุบันกูเกิ้ล เจริญเติบโตอย่างเร็วและเป็นระบบ เมื่อได้ซีอีโอ อิริค ชมิดท์ มานั่งตำแหน่งซีอีโอ จึงไม่ต้องสงสัยว่าทำไมกูเกิ้ลจึงบุกตลาดทั้งในส่วนเทคนิคและวางกลยุทธ์การตลาดรองรับ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กูเกิ้ลขายหุ้นไปล็อตใหญ่ราคาหุ้นละ 389.75 เหรียญสหรัฐ จำนวน 5.3 ล้านหุ้น ได้เงินถึง 2,062 ล้านเหรียญ ยาฮู และไมโครซอฟท์ จึงต้องปรับตัวอย่างหนัก แต่ไม่รู้ว่าจะทันหรือเปล่าปัจจุบัน เพจ และ บริน คู่หู ในวัยสามสิบต้นๆ ซื้อเครื่องโบอิ้ง 767 ไว้ใช้ส่วนตัวเวลาไปติดต่อธุรกิจ!!!

ไม่มีความคิดเห็น: